ปริศนาสุริยยาตร์ ค่าแก้มัธยมอาทิตย์และจันทร์นั้นมาแต่ไหน ตอนที่ 1
ปริศนาสุริยยาตร์ ค่าแก้มัธยมอาทิตย์และจันทร์นั้นมาแต่ไหน ตอนที่ 1
เกริ่นนำ
จากส่วนท้ายของบทนำ ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า เราจะเริ่มต้นกันจากเรื่องของเทศานตรผล
เพื่อตามหากันว่า ตำรานี้ ใช้ที่แห่งใด เป็นจุดคำนวณ เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าปรับแก้ไขกันแน่
ในที่นี้ จะขอใช้สูตรตามคัมภีร์สุริยสิทธานตะในการตามหาค่าเทศานตรผลกัน
เรื่องของเทศานตรผลอย่างย่อ
ในการหาค่าของเทศานตรผล เราสามารถหาได้ จาก สองวิธี
วิธีการแรก คำนวณจากค่าความสัมพันธ์ จากสูตรในตำราเดิม
วิธีการที่สอง คำนวณจาก การเรียบเรียงสูตรและสมการใหม่
โดยตีความจากความสัมพันธ์ตามตำราเดิม
ในการสอบทานนี้ เราจะใช้วิธีการที่สองในการคำนวณหาเทศานตรผล เนื่องจากมีขั้นตอนที่น้อยกว่า
แต่ให้ผลลัพธ์ออกมาเท่ากัน
โดยใช้ข้อมูลเป็นเส้นแวงหรือเส้นลองจิจูดของเมืองต่างๆมาหักลบกับค่าของเส้นแวงอ้างอิงที่อุชเชนี
โดยพิจารณาผลต่างระหว่างเส้นแวงทั้งสองว่า
หากมีผลต่างห่างกัน x องศา
ค่าเทศานตรผล ที่ได้ ก็คือ สัดส่วนของ ผลต่างที่ห่างกัน x องศา / 360 นั่นเอง
โดยที่ ผลต่างนี้ จะ พิจารณา จาก พิกัดที่กำหนดให้ กล่าวคือ
พิจารณาว่า พิกัดนั้น อยู่ ก่อน หรือ หลังเมอริเดียนหลัก(เส้นอ้างอิงที่อุชเชนี)
โดย จะมีค่าเป็น บวก ถ้าอยู่หลังเมอริเดียนหลัก
แต่จะมีค่าเป็นลบ เมื่อ อยู่ก่อนหน้า เมอริเดียนหลัก
หากเขียนเป็นความสัมพันธ์เชิงสัญลักษณ์ จะเขียนได้ดังนี้
ค่าเทศานตรผล = - (ค่าเส้นแวงที่พิจารณา – ค่าเส้นแวงอ้างอิงที่อุชเชนี) / 360
เมื่อคำนวณแล้วจะได้เลขติดลบ แปลว่า พิกัดสถานที่นั้น อยู่ก่อนหน้าเมืองอุชเชนี
เราจะใช้ความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้ เป็นเครื่องพิจารณาเพื่อหาพิกัดที่ถูกตั้งเป็นจุดคำนวณในสุริยยาตร์
คราวนี้ เมื่อพูดกันถึงเทศานตรผล แปลว่า เราจะต้องมีข้อมูลเรื่องของสถานที่หรือพิกัดที่ตั้ง
แต่เนื่องจากว่า เรากำลังพูดถึงสถานที่ต่างๆ ที่เคยถูกกล่าวถึงและมีอายุนับได้เป็นหลักพันปีขึ้นไป
จึงต้องค้นหาพิกัดที่ตั้งด้วยข้อมูลทางประวัติศาสตร์ผ่านสื่อต่างๆที่มีการบันทึกเอาไว้
เอาล่ะ เรามาเริ่มต้นหาสถานที่เหล่านั้นกัน
ประวัติศาสตร์ผ่าน Wikipedia
เป็นโชคดีของยุคนี้ ในการมีอยู่ของอินเตอร์เน็ต เราจะใช้ความสามารถของมันในการสืบค้นหา
เนื่องจากมีบรรดาสารพัดข้อมูลต่างๆปรากฎอยู่จำนวนมากมายมหาศาล
ซึ่งข้อมูลทางสถานที่เชิงประวัติศาสตร์เองก็เป็นหนึ่งในนั้นและเนื่องด้วยข้อมูลส่วนหนึ่งก็มีอยู่แล้วใน wikipedia
เลยขอเริ่มต้นการตามหากันที่นี่ หรือหากไม่มี ก็พบเจอได้ผ่านการสืบค้นข้อมูลด้วย search engine ใดๆ ก็ได้
(ส่วนมากจะเป็น google) โดยมาก มักจะได้ค่าพิกัดแบบละติจูดและลองติจูดกลับมา
ซึ่งก็เพียงพอแล้วสำหรับการพิจารณา
เสียงลือเสียงเล่าอ้าง
พญาลิไท สรุปอัป หลักฐานเริ่มต้น
เราพบว่า มีเรื่องของการสรุปอัปอยู่ในคัมภีร์สุริยยาตร์
ซึ่งถือเป็นการแก้ไขตัวคัมภีร์ครั้งสุดท้ายโดยถูกบันทึกลงในคัมภีร์ ณ ช่วงยุคสมัยของพญาลิไท
ผู้ที่เขียนตำราไตรภูมิพระร่วงนั่นเอง
จึงใช้เมืองสุโขทัย (จุดที่เป็นเมืองเก่าในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย)ซึ่งเคยเป็นราชธานีอยู่ในสมัยนั้น
เป็นจุดตั้งต้นคำนวณ
ในการคำนวณได้ใช้พิกัดของอุชเชนี หักลบกับ เมืองเก่าสุโขทัย พิจารณากันดูแล้ว พบว่า ไม่ใช่
แต่ผลคำนวณที่ได้ ช่างน่าประหลาดใจ กล่าวคือ ค่าที่ได้มานั้นมีค่าอยู่ที่ -3 และ -52
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ค่าที่ตามหา
แต่ถ้าหากเปลี่ยนพิกัดคำนวณเป็นเมืองโบราณที่อยู่ใกล้เคียงหรือในยุคสมัยอื่นที่เก่าแก่กว่า
อาจมีความเป็นไปได้ว่า น่าจะมีเมืองใดเมืองหนึ่งที่คำนวณแล้วมีสิทธิได้ชุดค่าแก้ที่ว่านั่นอยู่จริงๆ
เหตุผลก็คือ ค่าแก้ของมัธยมอาทิตย์ จากสุโขทัย ตกไปอยู่ที่ -3 แล้ว หากคิดเป็นเลขกลมๆ
เมื่อเทียบกับตัวค่าแก้ที่พบเจอในตอนแรก ซึ่งมีค่าอยู่ที่ -4 และ -54 ตามลำดับ
ย่อมแปลว่า น่าจะมีเมืองในละแวกนั้นหรือในอาณาจักรใกล้เคียงที่มีโอกาสคำนวณแล้วได้เจอค่านี้
ค้นหาเมืองต่างๆตามยุคต่างๆเพื่อค้นหาความเป็นไปได้
ในการค้นหา จะใช้พิกัดเมืองหลวงเป็นหลักในการวัดจากจุดอ้างอิงเพื่อค้นหาความเป็นไปได้
ในการตั้งจุดพิกัดว่า ใช้ที่แห่งใด เป็นจุดคำนวณค่าปรับแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับการที่ในอดีต
เมืองหลวงมักมีความสำคัญหรือมีความเจริญต่างๆมากมาย เนื่องจากเป็นศูนย์กลางอำนาจของผู้ปกครองอาณาจักร
โชคดีที่ข้อมูลต่างๆทั้งจากการสืบค้นได้และที่มีปรากฎอยู่ใน wikipedia นั้น
ล้วนแต่เป็นข้อมูลของเมืองสำคัญที่เคยเป็นเมืองหลวงหรือเชื่อได้ว่าเป็นเมืองสำคัญมาก่อนแล้วทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้ งานจึงง่ายขึ้นพอสมควร
สำหรับเมืองต่อไปที่จะลองค้นหา ก็คือ เมืองของอาณาจักรที่เก่ากว่าสุโขทัย ซึ่งได้แก่ อาณาจักรเชียงแสน
ผลการคำนวณทดสอบโดยใช้จุดเมืองหลวง(สันนิษฐาน) มีค่า -3 และ -52 สำหรับอาทิตย์และจันทร์ตามลำดับ
แปลว่า ยังไม่ใช่เมืองที่ตั้งจุดคำนวณอีกเช่นเดิม
อันดับถัดมา จากการสืบค้น มีข้อมูลที่บ่งชี้ได้ว่า เราเคยรับจุลศักราชมาใช้ตั้งแต่อดีต นับตั้งแต่ครั้งที่มี
พระภิกษุไปศึกษาพระธรรมที่อาณาจักรมอญ แต่ไม่ได้ใช้อย่างเป็นทางการนัก กระทั่งมีเหตุการณ์เสียกรุงครั้งที่ 1
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาฯ เลยเหมือนถูกบังคับใช้ไปกลายๆจนเป็นที่แพร่หลายในระยะเวลาประวัติศาสตร์ห้วงต่อมา
ศูนย์กลางอำนาจในเวลานั้นอยู่ที่กรุงหงสาวดีซึ่งก็เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของอาณาจักรมอญมาก่อนด้วย
ด้วยเหตุนี้ จึงลองสันนิษฐานให้ใช้จุดพิกัดเมืองหงสาวดีหรือพะโคะตามข้อมูลสืบค้นเป็นจุดวัดคำนวณ
ผลการคำนวณทดสอบโดยใช้จุดเมืองหลวง(สันนิษฐาน) มีค่า -3 และ -45 สำหรับอาทิตย์และจันทร์ตามลำดับ
แปลว่า ยังไม่ใช่เมืองที่กำหนดพิกัดตั้งจุดคำนวณเช่นกัน
แต่เริ่มมีความใกล้เคียงกับค่าที่ปรากฏในสุริยยาตร์มาบ้างแล้ว
โดยผลจากข้อมูลเชิงตัวเลขที่ผ่านมา เริ่มเห็นความเป็นไปได้แล้วว่า จุดเมืองที่ถูกตั้งพิกัดคำนวณนี้
น่าจะอยู่ภายในอาณาบริเวณของอาณาจักรฝั่งทางพม่า/มอญเป็นแน่ แต่จะเริ่มต้นจากที่ไหนดี
อาณาจักรของฝั่งเพื่อนบ้าน
ครานี้ เมื่ออาณาจักรที่ถูกนิยามว่าเป็นบ้านเมืองของชาวเรายังมิใช่จุดตั้งพิกัดคำนวณ
ก็ถึงคราวที่ต้องพิจารณาอาณาจักรของฝั่งเพื่อนบ้านโดยเน้นไปที่ทางฝั่งพม่ากันก่อน
โดยเริ่มต้นคิดกันที่อาณาจักรสุธรรมวดี
ซึ่งอาณาจักรสุธรรมวดี เป็นอาณาจักรมอญ และทางมอญเองก็เคยเป็นมิตรกับไทย (มิตรย่อมแบ่งปันและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่)
เลยลองสันนิษฐานว่า อาจเป็นอาณาจักรนี้ก็ได้ ที่ส่งผ่านตำรามา เลยลองใช้จุดคำนวณ
ณ เมืองสะเทิม ที่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรนี้ดู
ผลการคำนวณทดสอบโดยใช้จุดเมืองหลวง(สันนิษฐาน) มีค่า -3 และ -47 สำหรับอาทิตย์และจันทร์ตามลำดับ
แปลว่า ยังไม่ใช่เมืองที่ถูกคำนวณกำหนดเป็นค่าแก้เช่นกัน แถมมีค่าที่ห่างไกลกว่าทางหงสาวดีอีกด้วย
เมื่อดูจากค่าแก้ของมัธยมจันทร์
คราวนี้ เมื่อพบว่า ข้อมูลที่สันนิษฐานไว้ ไม่ใช่เลยสักอย่างเดียว
ทำให้ต้องย้อนกลับมาพิจารณากันที่อาณาจักรเก่าอีกอาณาจักรที่อยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
คือ อาณาจักรศรีเกษตร สำหรับอาณาจักรศรีเกษตร เป็นอาณาจักรของชาวปยู มีอายุนับพันปี
มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก มีเมืองแปรเป็นเมืองหลวง เป็นอาณาจักรที่มีอยู่มาก่อนหน้าอาณาจักรสุธรรมวดี
ในครั้งแรก ผู้เขียนมีความสงสัยว่าจะเป็นที่นี่ เพราะเป็นอาณาจักรที่รับอิทธิพลมาจากอินเดียค่อนข้างมาก
แต่เมื่อลองคำนวณตรวจสอบ ผลการคำนวณยังคงไม่ใช่อยู่ดี
ผลการคำนวณทดสอบโดยใช้จุดเมืองหลวง(สันนิษฐาน) มีค่า -3 และ -42 สำหรับอาทิตย์และจันทร์ตามลำดับ
โดยค่าที่ได้ในระดับทศนิยมนั้นจะอยู่ราวๆ 42.xxx ซึ่งเกินอยู่ค่อนข้างมาก
หลังจากนั้น ผู้เขียนก็ทิ้งผลการทดลองต่างๆ
รวมถึงการสืบค้นผ่านประวัติศาสตร์ด้วยข้อสันนิษฐานเชิงตัวเลขไว้เบื้องหลัง
หันเหความสนใจไปทำงานด้านอื่นและอย่างอื่นๆแทน
เหตุเกิดที่ จ.ศ. 0 หรือ พ.ศ. 1181
ล่วงเลยมาจนถึงช่วงเช้าของวันที่ 28 ตค 2566 ด้วยความที่มีชื่อของเมืองแปร
ซึ่งเคยใช้คำนวณคร่าวๆสำหรับอาณาจักรศรีเกษตรอันเป็นอาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนของชาวเผ่าปยู
และชื่อของอาณาจักรพุกาม ลอยวนเวียนอยู่แว้บๆเข้ามาในหัว เลยขอลองสอบทานดูสักหน่อย แป๊บเดียวก็ได้เรื่อง
สำหรับเมืองแปร เคยคำนวณมาก่อนหน้านี้ และทราบผลการคำนวณกันไปแล้ว การสอบทานจึงไม่มีอะไรมาก
ส่วนความพิเศษของอาณาจักรศรีเกษตรก็คือ ช่วงที่อาณาจักรนี้ยังเรืองอำนาจอยู่
ในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาของการประกาศใช้ปฏิทินพม่า
คือประกาศใช้ ณ วันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 638(เป็นค่าตามปฏิทินจูเลียน
ส่วนในปฏิทินเกรกอเรียนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันจะเป็นวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ.638)
ซึ่ง พุทธศักราช 1181 ใกล้เคียงกับ ค.ศ. 638 / มหาศักราช 560
หลังจากนั้น ราวๆ 500 ปีต่อมา อาณาจักรนี้จึงได้ถึงแก่กาลล่มสลาย
ซึ่งตัวของอาณาจักรได้ถูกยึดครองโดยอาณาจักรสุธรรมวดีก่อน
แล้วจึงถูกแทนที่ด้วยอำนาจจากอาณาจักรพุกามต่อมาในภายหลัง
ขอเล่าสั้นๆเกี่ยวกับอาณาจักรพุกาม
ในช่วงปลายของอาณาจักรศรีเกษตรได้มีอาณาจักรหนึ่งเริ่มก่อตั้งขึ้นชื่อว่า อาณาจักรพุกาม
และในระยะเวลาต่อมา ได้มีองค์กษัตริย์นามว่า พระเจ้าอโนรธามังช่อหรือพระเจ้าอนิรุทธ(อนุรุทธ)
เป็นผู้เข้ายึดรวมอาณาจักรศรีเกษตรไว้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร โดยมีเมืองหลวงตั้งอยู่ที่ เมืองพุกาม(Bagan)
เมื่อทราบแล้วว่า อาณาจักรพุกามเป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองสืบต่อมาจากอาณาจักรศรีเกษตร
โดยมีเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ ณ เมืองพุกาม เลยลองแทนค่าพิกัดของพุกามเข้าไป
ผลการคำนวณทดสอบ เราพบว่า ค่าที่ได้มีความใกล้เคียงที่สุดกับค่าปรับแก้ของสุริยยาตร์
โดยที่ค่าแก้ของมัธยมอาทิตย์อยู่ที่ 3.13 และของมัธยมจันทร์อยู่ที่ 41.8 ในรูปแบบของทศนิยม
หากปัดเป็นตัวเลขกลมๆ จะอยู่ที่ 3 กับ 41 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม นี่คือ การคำนวณสอบทานด้วยวิธีการสมัยใหม่ เราทราบถึงค่าพิกัดต่างๆของสถานที่นั้นๆ
ด้วยเส้นลองติจูด รวมถึงความก้าวหน้าในการคำนวณต่างๆ รวมทั้งเรื่องทศนิยมด้วย
ชวนให้ฉงนปนสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า แล้วในสมัยเมื่อพันกว่าปีก่อนนั้น
พวกเขาคำนวณค่าพวกนี้กันได้อย่างไร เพราะสมัยนั้น ก็ยังไม่มีเรื่องของเส้นแวง
หรือว่าเส้นลองติจูดในการวัดหาเวลา
นี่คือ สิ่งที่ทิ้งท้ายไว้ และไปตามหาคำตอบกันในตอนหน้า.
หมายเหตุผู้เขียน:
ไขข้อข้องใจ อาณาจักรพุกามนั้นเป็นอาณาจักรของชาวพม่า แล้วคัมภีร์นี้มาถึงชาวเราได้อย่างไรกัน
ในอดีต สิ่งหนึ่งที่มีเหมือนๆกันหมดในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรมอญหรืออาณาจักรพม่า
หรืออาณาจักรสยาม อาณาจักรล้านนา ล้านช้าง ได้แก่ การนับถือพระพุทธศาสนา
โดยเมื่อครั้งอาณาจักรพุกามยังคงเรืองอำนาจอยู่ พระเจ้าอโนรธามังช่อหรือพระเจ้าอนิรุทธ(อนุรุทธ)
ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง มีการเผยแผ่คัมภีร์ทางพระศาสนาและหรือรวมถึง
บรรดาคัมภีร์ทางวิชาการต่างๆอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องในสมัยนั้นเป็นอันมากไปทั่วทั้งภูมิภาค
นั่นแปลว่า วิทยาการหลายๆอย่าง ที่เราได้รับอาจสืบทอดและผ่านกันมาทางบรรดาคัมภีร์ต่างๆทางพระพุทธศาสนา
โดยอาจมาพร้อมกับการเดินทางของพระภิกษุที่จาริกไปทั่วทั้งภูมิภาคในแถบนี้หรือ
แม้แต่การไปร่ำเรียนวิชาความรู้จากสำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองพุกามเองก็ตาม
(มีเรื่องราวเล่าขานอยู่ตามตำนานท้องถิ่น ณ หัวเมืองเหนือเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกัน)
ส่วนเรื่องของการที่กำหนดพิกัดตั้งจุดคำนวณเป็นเมืองหลวงแห่งนี้(พุกาม)
แปลว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจมีการศึกษาและปรับปรุงคัมภีร์ต่างๆรวมถึงคัมภีร์สุริยยาตร์ขึ้นที่นี่
โดยคำนวณกำหนดจุดที่ตั้งไว้ ณ เมืองพุกาม เพื่อใช้งานกันในภูมิภาคอุษาอาคเนย์แห่งนี้เช่นกัน.
ภาคผนวกท้ายตอนที่ 1
ตารางแสดงค่าแก้เทศานตรผลของอาทิตย์และจันทร์ สำหรับเมืองต่างๆ
คำนวณด้วยคัมภีร์สุริยสิทธานตะ
เมือง | พิกัด longitude | ค่าแก้เทศานตรผลสำหรับมัธยมอาทิตย์ | ค่าแก้เทศานตรผลสำหรับมัธยมจันทร์ |
สุโขทัย | 99.7038652 | -3 | -52 |
หิรัญเงินยางเชียงแสน | 99.8232794 | -3 | -52 |
หงสาวดี | 96.451245 | -3 | -45 |
สะเทิม | 97.3516701 | -3 | -47 |
แปร (นครรัฐปยูว์) | 95.2185264 | -3 | -42 |
พุกาม | 94.8537147 | -3 | -41 |
กรุงเทพมหานคร | 100.494066 | -4 | -54 |
ผาชะนะได อ.โขงเจียม อุบลราชธานี | 105.6147929 | -4 | -65 |
พิกัด longitude อ้างอิง ณ เมืองอุชเชนี 75.785
อัตราโคจรเฉลี่ยต่อวันของอาทิตย์(ลิบดา) 59
อัตราโคจรเฉลี่ยต่อวันของจันทร์(ลิบดา) 790
หมายเหตุ: เมื่อคำนวณแล้วจะได้เลขติดลบ แปลว่า พิกัดสถานที่นั้น อยู่ก่อนหน้าเมืองอุชเชนี
พิกัด longtitude เมืองต่างๆ หน่วยเป็นองศา
ค่าแก้เทศานตรผล มัธยมอาทิตย์และมัธยมจันทร์ มีหน่วยเป็น ลิบดา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น